วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

sunitjo พาเที่ยว พระราชวังจตุมุขสิริมงคล วัดพระแก้วเขมร ฝรั่งเรียก วัดเงิน พิ้นโบสถ์ทำจากเงินเหรียญแท้ๆ 60 ตัน Royal Palace of the Kingdom of Cambodia. Phnom Penh, Cambodia.

sunitjo travel พาเที่ยว พระราชวังจตุมุขสิริมงคล  วัดพระแก้วเขมร ฝรั่งเรียก วัดเงิน พิ้นโบสถ์ทำจากเงินเหรียญแท้ๆ 60 ตัน หรือ 6000 กิโลกรัม Royal Palace of the Kingdom of Cambodia. Phnom Penh, Cambodia.

 พระบรมราชวังแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา (เขมร: ព្រះបរមរាជាវាំងនៃរាជាណាចក្រកម្ពុជា) หรือ พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (เขมร: ព្រះបរមរាជវាំងចតុមុខសិរីមង្គល) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นกลุ่มอาคารพระราชมนเทียรของพระมหากษัตริย์กัมพูชา พระเจ้าแผ่นดินกัมพูชาเสด็จประทับที่นี้นับแต่แรกสร้างใน ค.ศ. 1866 และเสด็จไปประทับที่อื่นเมื่อบ้านเมืองวุ่นวายเพราะเขมรแดงเรืองอำนาจ
ชาวไทยมักเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่า "พระราชวังเขมรินทร์" ทั้ง ๆ ที่ชื่อ "เขมรินทร์" เป็นเพียงพระที่นั่งองค์หนึ่งในพระบรมราชวังจตุมุขเท่านั้น
พระบรมราชวังนี้สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงอุดง มายังกรุงพนมเปญ ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19
พระราชวังหลวง
ตั้งอยู่บนถนนโซะเทียะรึต ทางตอนใต้ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สร้างขึ้นตามรูปแบบศิลปะเขมรโดยความช่วยเหลือของฝรั่งเศสในปี 1866 และใช้เป็นที่ประทับของเจ้านโรดมสีหนุ นับจากที่เสด็จกลับคืนสู่กรุงพนมเปญในปี 1992 เป็นต้นมา สถานที่ส่วนใหญ่ภายในเขตพระราชวังเปิดให้เข้าชมได้ ยกเว้นเขตหวงห้ามบางเขต เช่น เขตพระราชฐานที่ประทับ เป็นต้น
ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเขตพระราชวังหลวง เป็นเขตพระราชฐาน ที่ประทับของสมเด็จพระสีหนุ ส่วนทางด้านใต้ของพระราชวังหลวง มีหมู่อาคารพระคลังหลวง พระที่นั่งโภชนีโสภา สำหรับพระราชทานเลี้ยง
พระราชวังหลวง กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ชื่อเต็มในภาษากัมพูชา คือ “เปรี๊ยะบรมเรียเชียแวงจักตุมุก” (พระบรมราชวังจตุมุข) กษัตริย์แห่งกัมพูชาทรงประทับที่นี่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2409 ในช่วงที่กลุ่มเขมรแดงขึ้นครองอำนาจ พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างไประยะหนึ่ง
พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เมื่อสมเด็จพระนโรดม กษัตริย์กัมพูชาทรงย้ายเมืองหลวงจากอุดงมีชัย (Oudong) มายังพนมเปญในช่วงกลางคริสตศตวรรษที่ 19 พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของลำน้ำสาขา 4 สายของแม่น้ำโขง เรียก “จตุมุข” และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
จิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระแก้ว กรุงพนมเปญ อายุประมาณ 1,000 ปี
พระราชวังหลวงในกรุงพนมเปญมีอาคารที่แตกต่างกันและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมในปัจจุบัน อาคารพระราชวังทั้งเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวนอกเหนือจากที่ประทับที่แท้จริงของพระราชวงศ์ นักท่องเที่ยวจะได้รับคู่มือการท่องเที่ยวและแผ่นพับเพียงที่ประตูทางเข้าในเขตพระราชฐาน เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน เวลา 7.30-11.00 น. และ 14.00-17.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ






































วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แหล่งท่องเที่ยว กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่พัก ร้านอาหารอร่อยๆ แบบเขมร Royal Palace of the Kingdom of Cambodia. Phnom Penh, Cambodia


แหล่งท่องเที่ยว กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่พัก ร้านอาหารอร่อยๆ แบบเขมร Royal Palace of the Kingdom of Cambodia. Phnom Penh, Cambodia

กรุงพนมเปญ เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยจังหวัดกันดาล และเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การเมือง และวัฒนธรรมของกัมพูชา มีประชากรถึง 2 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 15.2 ล้านคน
พนมเปญ (เขมรភ្នំពេញ ภฺนํเพญ ออกเสียงว่า พนุมปึญ; อีกชื่อหนึ่งคือ ราชธานีพนมเปญ) เป็นเมืองหลวงของประเทศกัมพูชา และยังเป็นเมืองหลวงของนครหลวงพนมเปญด้วย ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า ไข่มุกแห่งเอเชีย (เมื่อคริสต์ทศวรรษ 1920 พร้อมกับเมืองเสียมราฐ) นับเป็นเมืองที่เป็นเป้าการท่องเที่ยวทั้งจากผู้คนในประเทศ และจากต่างประเทศ พนมเปญยังมีชื่อเสียงในฐานะที่มีสถาปัตยกรรมแบบเขมรดั้งเดิม และแบบได้รับอิทธิพลฝรั่งเศส และผู้คนมีอัธยาศัยดี
 พนมเปญไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นถิ่นฐานที่ตั้งหลัก จนกระทั่งเข้าสู่ยุคเมืองพระนคร หลังจากนครวัดและเมืองอื่นๆใกล้เคียงเริ่มมีชื่อเสียงโดดเด่นประจักษ์สู่สายตาประชาคมโลก ช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เจ้าพระยาญาติย้ายราชธานีจากเมืองพระนครหนีสยามมาตั้งอยู่ที่นครวัดและสร้างพระราชวัง ณ พื้นที่ที่เป็นกรุงพนมเปญในปัจจุบัน ต่อมาภายหลังมีการสร้างเจดีย์ขึ้นซึ่งในขณะนั้นเมืองยังไม่ได้เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1866 ภายใต้การปกครองของพระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ จึงได้แต่งตั้งกรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงของประเทศ
อย่างไรก็ตามสามปีก่อนตั้งกรุงพนมเปญเป็นราชธานี กัมพูชาลงนามในสนธิสัญญายอมเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสแถบอินโดจีนที่รวมถึงเวียดนามและลาว ภายใต้อำนาจการปกครองแบบเต็มรูปแบบของปารีส ทำให้พนมเปญมีศักยภาพและเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าหมู่บ้าน ก้าวไปสู่การพัฒนาเป็นเมืองท่าริมน้ำที่ทันสมัยของฝรั่งเศส
แม้จะมีความวุ่นวายในส่วนอื่นๆ ของประเทศทั้งก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พนมเปญยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสจนกระทั่งปี ค.ศ. 1953 ภายใต้การนำของสมเด็จนโรดมสีหนุและคลื่นมวลชนชาวเขมรที่ออกมาเรียกร้องเอกราช จนได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วงต้นของปี ค.ศ. 1970 พนมเปญค่อนข้างมีความสงบท่ามกลางทะเลสงครามในประเทศกัมพูชา
ในปี ค.ศ. 1975 กองกำลังเขมรแดงภายใต้การนำของพอลพตบุกโจมตีพนมเปญ หลังจากเข้ายึดครองไม่กี่วันจึงเริ่มกวาดล้างประชากรกว่าสองล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยเนรเทศออกไปสู่ชนบท ภายใน 4 ปีพนมเปญแทบร้างผู้คน ยกเว้นเขตพื้นที่กักกัน เช่น S-21 และพื้นที่บางส่วนที่ชาวเขมรแดงอาศัยอยู่
เมื่อเขมรแดงถูกขับไล่ออกไปจากกรุงพนมเปญในปี ค.ศ. 1979 ผู้คนจึงค่อยๆ ทยอยกลับเข้ามาอาศัยในเมืองอีกครั้ง แต่เนื่องจากสภาพบ้านเมืองที่ถูกทำลายและทรุดโทรมอย่างมาก รวมถึงจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นน้อย องค์การระหว่างประเทศจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทและให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูบ้านเมือง หลังจากการลงนามในความตกลงทางการเมืองสมบูรณ์แบบในความขัดแย้งกัมพูชา หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีส (Paris Peace Agreement) ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งคืนเสถียรภาพเต็มที่แก่ประชาชนชาวกัมพูชา
ในปี ค.ศ. 1999 กัมพูชาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งสนับสนุนและดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในกัมพูชามากขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นในทางที่ดีสำหรับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศ




































































         Royal Palace of the Kingdom of Cambodia. Phnom PenhCambodia